aespa (เอสป้า) กับเวิลด์ทัวร์ครั้งที่สามในประเทศไทย 2025 aespa LIVE TOUR – SYNK : aeXIS LINE – in BANGKOK รวมผู้ชมกว่า 22,000 คน
aespa (เอสป้า) ยกศูนย์กลางแห่งความสนุกระดับโลกสู่สายตาแฟนชาวไทย พร้อมโชว์การแสดงที่รวยความมั่นใจอย่างไม่มีใครเทียบได้ กับเวิลด์ทัวร์ครั้งที่สามในประเทศไทย 2025 aespa LIVE TOUR – SYNK : aeXIS LINE – in BANGKOK รวมผู้ชมกว่า 22,000 คน ทุบสถิติใหม่อีกครั้งในฐานะ ‘เกิร์ลกรุ๊ปเค-ป็อปเจน 4 วงแรกที่จัดคอนเสิร์ต ณ อิมแพ็ค อารีน่าได้ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2’
aespa (เอสป้า) ยกศูนย์กลางแห่งความสนุกระดับโลกสู่สายตาแฟนชาวไทย พร้อมโชว์การแสดงที่รวยความมั่นใจอย่างไม่มีใครเทียบได้ กับเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่สามในประเทศไทย ‘2025 aespa LIVE TOUR – SYNK : aeXIS LINE – in BANGKOK’ (ทูเธาซันด์ทเวนตี้ไฟว์ เอสป้า ไลฟ์ ทัวร์ – ซิงก์ : เอ็กซิส ไลน์ – อิน แบงค็อก) ในวันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2025 เวลา 19:00 น. และวันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน 2025 เวลา 16:00 น. ทั้งหมด 2 รอบการแสดง ณ อิมแพ็ค อารีน่า รวมผู้ชมกว่า 22,000 คน ที่สำคัญ พวกเธอสามารถทุบสถิติใหม่ได้อีกครั้งในฐานะ ‘เกิร์ลกรุ๊ปเค-ป็อปเจน 4 วงแรกที่สามารถจัดคอนเสิร์ต ณ อิมแพ็ค อารีน่าได้ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2’
สำหรับทัวร์ ‘2025 aespa LIVE TOUR – SYNK : aeXIS LINE’ จะมี aespa (เอสป้า) ที่เปรียบเสมือนศูนย์กลางของคอนเสิร์ตในการนำเสนอโชว์ภายใต้แนวคิด ‘จุดเริ่มต้นของความสามัคคี’ ร่วมกับผู้ที่มีเป้าหมายเดียวกัน ซึ่งก็คือ MY (มาย : ชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการ) ตามชื่อ ‘aeXIS LINE’ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก ‘Axis Line’ หรือ ‘แกนกลาง’ โดยลำดับของเซ็ตลิสต์ทั้งหมดได้ถูกร้อยเรียงออกมาอย่างตั้งใจ รวมถึงการเล่าเรื่องราวผ่านวีซีอาร์และบทเพลงต่าง ๆ เพื่อถ่ายทอดสีสันอันเป็นเอกลักษณ์และสะท้อนเส้นทางของวงที่โดดเด่นเรื่องการส่งต่อพลังแห่งความมั่นใจและความเป็นอิสระ แน่นอนว่าทางผู้จัดและต้นสังกัดในประเทศไทย SM True (เอสเอ็ม ทรู) ก็เนรมิตโปรดักชันคุณภาพสูงเสริมความยิ่งใหญ่ให้เวทีของ aespa (เอสป้า) มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตั้งแต่จอหลักขนาดยักษ์ กว้าง 50 เมตร สูง 10 เมตร, จอโค้งเรียง 4 จอที่สื่อถึงแกนกลาง, ผ้าม่านทึบแสงที่ยาวเกือบ 17 เมตร, การติดตั้งลิฟต์ยกทั้งเวทีหลักและเวทีรอง, อุปกรณ์ประกอบฉากต่าง ๆ, กระดาษโปรยหลากหลายแบบ ไปจนถึงสเปเชียลเอฟเฟกต์อย่างเครื่องยิงเลเซอร์, เครื่องพ่นไฟ, เครื่องพ่นควันต่ำ, เครื่องจุดประกายไฟ และไพโรเทคนิค พร้อมเติมเต็มอรรถรสให้ผู้ชมขั้นสุดด้วยวงดนตรีสด ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในทัวร์ปีนี้ที่มีเช่นเดียวกับคอนเสิร์ตในเกาหลีใต้
เริ่มต้นการเชื่อมโยงกับแกนกลางอย่างน่าทึ่งด้วยเซ็ตฉากเปิดตัวสุดอลังการที่ aespa (เอสป้า) ลอยสง่างามเหนือเวที ดึงดูดมุมมองของผู้ชมทั้งฮอลล์ให้โคจรตามการก้าวเดินอย่างมีชั้นเชิงสู่เพลงแรก ‘Armageddon’ พร้อมปรับโทนให้ตื่นเต้นยิ่งขึ้นในเพลง ‘Set The Tone’ แล้วพุ่งไปข้างหน้าอย่างเร้าใจกับเสียงผิวปากที่ติดหูด้วย ‘Drift’ ก่อนผนึกกำลังการทำงานแบบเซ็กซี่น่าหลงใหลในเพลง ‘Dirty Work’ จากนั้นจึงพาทุกคนเข้าสู่โลกที่หลากหลายของพวกเธอ โดยเฉพาะช่วงเวทีเพลงโซโล่ที่พิสูจน์ถึงศักยภาพและพัฒนาการในฐานะศิลปินของ 4 สมาชิก ที่ต่างมีส่วนร่วมในการแต่งเนื้อร้องและทำนองเพลงของตัวเอง ทั้งการแสดงฮิปฮอปสุดเท่ ‘GOOD STUFF’ ที่ KARINA (คาริน่า) โชว์ของดีเป็นการแรปและสเตปอันทรงพลังสนั่นอิมแพ็ค, ‘Ketchup And Lemonade’ ของ NINGNING (หนิงหนิง) การแสดงที่ผสมเสียงร้องอันมีเสน่ห์เข้ากับท่าเต้นและการฉายภาพศิลปะด้วยเครื่องโปรเจกเตอร์, ‘Tornado’ ของ GISELLE (จีเซลล์) การแสดงสไตล์ทรอปิคอลพร้อมเสียงร้องหวาน ๆ และท่าเต้นอันสดชื่นมีชีวิตชีวา และ ‘BLUE’ ของ WINTER (วินเทอร์) การแสดงที่สื่ออารมณ์ป็อปร็อกผ่านเสียงร้องอันไพเราะกินใจกับเนื้อร้องที่ปลอบโยนผู้ฟังอย่างอบอุ่น
เติมระดับความเผ็ดเกินใจต้านทานด้วยเวทีที่มีกราฟิกภาพเคลื่อนไหวสามมิติสวย ๆ เด้งออกมาอย่าง ‘Spicy’ เพิ่มจังหวะหนักหน่วงเรียกทุกสายตาให้จับจ้องไปที่พวกเธอใน ‘Trick or Trick’ ดื่มด่ำไปกับเสียงร้องอันเหมือนฝันแสนหวานผ่าน ‘Flowers’, ‘자각몽 (Lucid Dream)’, ‘Thirsty’ แล้วสลับอารมณ์มาที่ความน่ารักสดใสด้วย ‘Angel #48’, ‘Better Things’ และเพลงมันส์ ๆ ที่มีท่อนแดนซ์เบรก ‘Hold On Tight’ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีไฮไลต์ที่ทุกคนตั้งตารออย่างช่วง ‘I’m The Highlight’ ที่เน้นย้ำ ‘รสชาติเหล็ก’ คำเรียกดนตรีอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ aespa (เอสป้า) ซึ่งถูกเสิร์ฟออกมาอย่างถึงใจในรูปแบบพาเหรดที่ต่อเนื่องกัน พร้อมเปลี่ยนฮอลล์ให้ร้อนแรงทะลุองศาจนกลายเป็นเตาหลอมเหล็กขนาดใหญ่ ไล่มาตั้งแต่เวทีที่ได้รับชมเป็นครั้งแรกในประเทศไทยอย่างเพลงไตเติลล่าสุด ‘Rich Man’, เพลงที่มีท่าเต้นคิลใจ ‘Kill It’, เพลงที่เผยความมุ่งมั่นอย่างดุเดือด ‘Dark Arts’ ตามมาด้วยเพลงเมกะฮิตที่สร้างปรากฏการณ์ระเบิดความนิยมอีกขั้นไปทั่วโลกอย่าง ‘Next Level’, ‘Supernova’, ‘Whiplash’ ตลอดจนการแมชอัปเพลงที่แฟน ๆ เรียกร้องอย่าง ‘Girls’ กับ ‘Drama’ บวกท่อนแดนซ์เบรกแบบคู่
aespa (เอสป้า) เดินหน้ามอบพลังบวกอย่างไม่หยุดยั้งจนถึงช่วงท้ายคอนเสิร์ตในเพลง ‘Life’s Too Short’ ชวนให้สนุกกับชีวิตที่มีเพียงครั้งเดียวอย่างไม่เสียใจภายหลัง และเพลงที่ส่งกำลังใจถึงผู้หญิงทั่วโลกให้เชื่อมั่นในตัวเองอย่าง ‘To The Girls’ พร้อมเดินขอบคุณผู้ชมทั่วเวที ทางด้านแฟนคลับชาวไทยก็ตั้งใจจัดเต็มโปรเจกต์มากมายเพื่อสร้างความประทับใจที่ดีที่สุดให้กับศิลปินที่รักเนื่องในโอกาสใกล้วันครบรอบเดบิวต์ 5 ปีของพวกเธอ ไม่ว่าจะเป็นการแปรกล่องไฟเป็นคำว่า “마이의 1위 🎈 💙🌙 🏡 ⭐️🦋 (ที่ 1 ของ MY)” “에스파🌷 5살📅 ✨🎂✨ (aespa 5 ขวบ)”, ที่คาดผม ‘รูป aespa เวอร์ชันตุ๊กตา’ และ ‘รูปเค้ก’, การร่วมกันร้องเพลงของ aespa ช่วงอังกอร์ รวมถึงป้ายรูป ‘ผักกาดและแคร์รอต’ พาย้อนความทรงจำไปช่วงเดบิวต์แรก พร้อมข้อความ “ประเทศไทยจะเป็นบ้านที่อบอุ่นสำหรับ aespa เสมอ” และป้ายรูป ‘เค้กที่มีสัญลักษณ์ประจำตัวสมาชิก’ พร้อมข้อความ “สุขสันต์วันครบรอบ 5 ปี มาอยู่ด้วยกันตลอดไปเลยนะ”
การแสดงในวันแห่งความทรงจำอันมีความหมายครั้งนี้ทำให้ค้นพบแล้วว่า เส้นทางใหม่ที่ใช้ระยะเวลาในการวาดขึ้นกว่า 2 ชั่วโมง 30 นาที ผ่าน 25 บทเพลง สามารถเชื่อมโยงทุกคนมาพบกับแกนกลางอย่าง aespa (เอสป้า) ได้สำเร็จ เหนือสิ่งอื่นใด แกนกลางนี้จะยิ่งมั่นคงและแข็งแกร่งมากขึ้น เมื่อถูกโอบล้อมด้วยความรักและแรงสนับสนุนจาก MY (มาย) ที่เป็นทั้งแฟนคลับ เพื่อนคนที่ล้ำค่าที่สุด และผู้ที่มีเป้าหมายเดียวกันกับพวกเธอ
