อิเกียจัดกิจกรรมเวิร์คช็อปส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านการเล่นอย่างมีคุณภาพ นำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็ก พร้อมดึงนักออกแบบภายในร่วมแชร์ทริคการจัดบ้านเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการเจ้าตัวเล็ก กรุงเทพฯ, 29 พฤษภาคม 2566 – อิเกีย ประเทศไทย จัดกิจกรรมเวิร์คช็อปสุดพิเศษสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่เป็นสมาชิก IKEA Family มุ่งส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาการของเด็กๆ ผ่านการเล่นอย่างมีคุณภาพ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Learning by playing” เพราะอิเกียเชื่อว่าการเล่นคือการเรียนรู้ โดยได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กจากสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล มาร่วมแบ่งปันความรู้ด้านการเล่นของเด็กในแต่ละช่วงวัยเพื่อให้ผู้ปกครองได้เข้าใจและมีส่วนร่วมในการพัฒนาทักษะต่างๆ ของเด็กๆ อย่างเหมาะสม พร้อมรับฟังเคล็ดลับอีกมากมายในการสร้างสภาพแวดล้อมการเล่นที่ปลอดภัย นอกจากนี้ ยังได้เชิญนักออกแบบตกแต่งภายในจากอิเกียมาร่วมแชร์เทคนิคการจัดบ้านให้เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้อีกด้วย บทบาทของพ่อแม่เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ในแต่ละช่วงวัย พ่อแม่และสมาชิกในครอบครัวที่ใกล้ชิดนับเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กๆ ตั้งแต่วัยแรกเกิดจนถึงปฐมวัย โดยกลุ่มคนเหล่านี้มีหน้าที่หมั่นดูแล สังเกตและพัฒนากระบวนการการเรียนรู้เพื่อให้เด็กมีพัฒนาการที่สมบูรณ์ในทุกๆ ด้านและเจริญเติบโตแข็งแรงอย่างสมวัย ในปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้ว่าสื่อออนไลน์และเทคโนโลยีต่างๆ มีบทบาทสำคัญในชีวิตของทั้งพ่อแม่และเด็กๆ ในขณะเดียวกัน การเล่นที่กระตุ้นให้เด็กได้เคลื่อนไหวร่างกายและเสริมพัฒนาการด้านอื่นๆ อย่างครบถ้วนก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้าม อาจารย์ ดร. ประภัสสร พวงสำลี ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กจากสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “พ่อแม่ที่กำลังเลือกซื้อของเล่นให้เด็กๆ นอกจากจะเลือกตามความสนใจของเด็กๆ แล้ว อาจจะเลือกของเล่นที่พ่อแม่สามารถร่วมเล่นด้วยได้ เพราะจะช่วยสร้างความอบอุ่นแน่นแฟ้นในครอบครัว ส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดปัญหาการติดหน้าจอของเด็กๆ และเมื่อถ้าพ่อแม่เล่นอย่างสนุกสนานพร้อมเสียงที่ดังสมจริง ประกอบกับสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างกัน จะทำให้เด็กๆ รู้สึกสนุกกว่าการดูหน้าจอ” อาจารย์ ดร. ประภัสสร ให้คำแนะนำสำหรับพ่อแม่เรื่องการติดหน้าจอของเด็กๆ เพิ่มเติมว่า “การที่เด็กๆ ดูหน้าจอจนติดเป็นนิสัยจะทำให้ไม่เกิดการโต้ตอบ ไม่สร้างการมีส่วนร่วมของเด็กๆ และอาจทำให้พัฒนาการไม่ดีเท่าที่ควร ทั้งนี้ พ่อแม่สามารถแก้ปัญหาได้โดยการเริ่มเข้าไปมีส่วนร่วมกับเด็กๆ ระหว่างการดูหน้าจอ เพื่อกดหยุดหน้าจอและอธิบายเพิ่มเติมหรือพูดคุยกับเด็กๆ ถึงสิ่งที่กำลังดู เพื่อสร้างการเรียนรู้และการโต้ตอบสองทาง นอกจากนี้ พ่อแม่ยังสามารถลดการใช้หน้าจอของเด็กๆ ได้ด้วยการเชื่อมโยงสิ่งที่พวกเขากำลังรับชมกับสิ่งของรอบตัวที่สามารถหยิบจับได้ เพื่อที่เด็กๆ จะได้ฝึกประสาทสัมผัส เรียนรู้ลักษณะพื้นผิวของสิ่งนั้นจริงๆ และเสริมจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ไปพร้อมกัน” ในส่วนของความรู้ด้านการเล่นที่เหมาะสมสำหรับเด็กในแต่ละช่วงวัย อาจารย์ ดร. ประภัสสร ได้แบ่งเป็นคำแนะนำสำหรับเด็กแรกเกิดและเด็กเล็ก ดังนี้ เด็กในวัยแรกเกิดถึง 3 ขวบ พ่อแม่ของเด็กควรเข้าไปเล่นกับลูกอย่างถึงเนื้อถึงตัว เพื่อสร้างความอบอุ่น ความผูกพัน และพื้นที่ปลอดภัยสำหรับลูก เนื่องจากเด็กในวัยนี้จะมีพฤติกรรมการเล่นคนเดียว โดยการหยิบจับสิ่งของต่างๆ ดังนั้น พ่อแม่ควรเน้นสร้างพัฒนาการด้านประสาทสัมผัสทั้งห้า โดยพ่อแม่สามารถใช้น้ำเสียงที่สมจริงและหลากหลายกับเด็กๆ ในระหว่างการเล่นเพื่อกระตุ้นจินตนาการ เพราะแม้ว่าเด็กในวัยนี้จะไม่สามารถตอบโต้ได้ แต่สามารถจดจำและคิดตามได้ และเมื่อวันหนึ่งที่เด็กๆ พร้อม เขาจะพูดคำที่จดจำเหล่านั้นออกมา ทั้งนี้ การเล่นของเด็กๆ ในช่วงวัยนี้จะต้องระมัดระวังของเล่นที่เด็กๆ สามารถหยิบเข้าปาก เพราะอาจเกิดอันตรายได้ เด็กวัย 3-4 ขวบ หรือวัยอนุบาลที่เริ่มมีกฎกติกาต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง เด็กในวัยนี้สามารถเรียนรู้เรื่องการแพ้ชนะ และการให้อภัย จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับปลูกฝังการเรียนรู้ด้านการจัดการอารมณ์ และทักษะในการเข้าสังคม ผ่านการเริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับคนนอกครอบครัวอย่างเพื่อนๆ ที่โรงเรียน โดยพ่อแม่สามารถร่วมเล่นและทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมเพื่อสอนทักษะการทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น หลักการในการเลือกของเล่น ของเล่นมีส่วนช่วยกระตุ้นระบบประสาทสัมผัสทุกส่วนของเด็ก ตลอดถึงการมอง การได้ยิน การส่งเสริมพัฒนาการของกล้ามเนื้อในส่วนต่างๆ ซึ่งนับเป็นตัวช่วยสำคัญที่ส่งเสริมทั้งพัฒนาการด้านร่างกาย ด้านอารมณ์และการสื่อสาร นอกจากการเลือกของเล่นที่เป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการแล้ว พ่อแม่ควรคำนึงถึงหลักความปลอดภัยอีกด้วย โดยมีหลักการและข้อควรระวังสำหรับการเลือกของเล่นที่สำคัญ 5 ประการ ได้แก่ ระวังของเล่นที่เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เพราะหากเล่นผิดวิธี อาจมีโอกาสอุดตันทางเดินอาหารและหลอดลมได้... Read More →